ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ‘WALK IN CLOSET’ เป็นห้องแต่งตัวในฝันที่กำลังได้รับความนิยมจากสาวๆ เป็นอย่างมาก
เพราะเป็นห้องแต่งตัวที่ทำให้เราสามารถจัดเก็บเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง และชุดเครื่องนอน เอาไว้ด้วยกันได้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังทำให้เราสามารถใช้สอยพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย
ซึ่งการจะทำห้องแต่งตัวแบบ WALK IN CLOSET นั้นส่วนใหญ่จะใช้เงินค่อนข้างสูง เพราะต้องจ้าง Interior Design มาออกแบบและทำการ BUILT IN เฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด
วันนี้ GOOD IDEA OUTLET ก็เลยไปรวบรวมวิธีการทำห้องแต่งตัวแบบ WALK IN CLOSET ง่ายๆ ด้วยตัวเองมาบอกต่อให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ลองนำไปทำตามกันดูค่ะ
ข้อควรรู้ ก่อนทำ WALK IN CLOSET (ด้วยตัวเอง) รับรองปังแน่
สารบัญเนื้อหา
- กำหนดความลึกของตู้เสื้อผ้า
- แบ่งจำนวนพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้า
- เพิ่มพื้นที่จัดเก็บของที่มุมห้อง
- เว้นพื้นที่สำหรับวางเก้าอี้กลางห้อง
- แบ่งพื้นที่สำหรับเก็บรองเท้าคู่โปรด
- ต้องมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บเครื่องประดับ
- แสงธรรมชาติต้องส่องเข้าถึงห้องได้
- เน้นการจัดวางให้โปร่งโล่ง สบายตา
- ต้องมีกระจกเงาเต็มตัวเอาไว้ส่อง
- สรุป
กำหนดความลึกของตู้เสื้อผ้า
การจะทำห้องแต่งตัวแบบ WALK IN CLOSET นะคะสิ่งแรกที่เราจะต้องรู้ก่อนก็คือ ‘ขนาดความลึกของตู้เสื้อผ้า’ ที่เราต้องการใช้นั้นเองค่ะ โดยส่วนใหญ่ความลึกของตู้เสื้อผ้าควรจะอยู่ที่ประมาณ 60 เซนติเมตรขึ้นไป
เพราะจะทำให้เราสามารถแขวนเสื้อ กางเกง กระโปรง ชุดเดรส ชุดราตรี และเสื้อโค้ทตัวหนาๆ เอาไว้ในตู้ได้อย่างพอดี และเป็นระเบียบ โดยที่ไม่กลัวเลยว่าเสื้อผ้าที่แขวนเอาไว้จะยื่นออกมาเกินขอบตู้ให้ดูรกเกะกะทางเดิน
แบ่งจำนวนพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้า
ในห้องแต่งตัวแบบ WALK IN CLOSET นะคะเราควรจะ ‘แบ่งพื้นที่ในการจัดเก็บเสื้อผ้า’ ให้ดูเป็นสัดส่วน เพื่อทำให้เราเนี่ยสามารถหยิบเสื้อผ้าออกมาได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เพราะการจัดเก็บเสื้อผ้านั้นจะมีทั้งการพับ และการแขวน ซึ่งจะแยกตามประเภทเสื้อผ้าที่แต่ละคนชอบใส่ ดังนั้นสำหรับใครที่ชอบใส่เสื้อ กางเกง หรือชุดเดรสสั้นๆ ก็ควรจะเลือกใช้ตู้ที่มีราวแขวนแบบ 2 ชั้น แต่ถ้าใครที่ชอบใส่ชุดยาวๆ เช่น ชุดราตรี ก็ควรเลือกใช้ตู้ที่มีราวแขวนเดี่ยวนั้นเองค่ะ
เพิ่มพื้นที่จัดเก็บของที่มุมห้อง
สำหรับการทำห้องแต่งตัว WALK IN CLOSET นะคะสิ่งที่จะขาดไม่ได้นั่นก็คือการมี ‘พื้นที่จัดเก็บของที่มุมห้อง’ ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้พื้นที่ในห้องที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างคุ้มค่า และยังช่วยทำให้เรามีพื้นที่ในการจัดเก็บของ เช่น เสื้อโค้ทตัวหนาๆ หรือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ที่เราไม่ค่อยได้หยิบออกมาใช้งานอีกด้วย
ดังนั้นเราจึงเลือกใช้ตู้เข้ามุมที่เป็นราวแขวนเดี่ยว เพราะจะทำให้เราสามารถแขวนเก็บได้ทั้งเสื้อผ้า และยังช่วยจัดเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ เอาไว้ด้านในสุดของตู้ได้อีกด้วยนั้นเอง
เว้นพื้นที่สำหรับวางเก้าอี้กลางห้อง
ด้วยความที่ห้องแต่งตัวแบบ WALK IN CLOSET จะเน้นให้มีตู้สำหรับจัดเก็บเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ ได้แบบเต็มห้อง แต่เพื่อนๆ ลองคิดดูสิค่ะถ้าสมมุติว่าห้องแต่งตัวของเรานั้นมีพื้นที่ตรงกลางเหลือยู่น้อยเกินไป เราจะต้องเดินหาเสื้อผ้าแบบอึดอัดแน่ๆ
ดังนั้นเราจึงควรเว้นพื้นที่ตรงกลางระหว่างตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ฝั่งเอาไว้ประมาณ 60 – 90 เซนติเมตร แล้วลองหาเก้าอี้โซฟาตัวนุ่มๆ มาวางเอาไว้ก็ช่วยทำให้เราเดินเลือกเสื้อผ้า และนั่งใส่รองเท้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ
แบ่งพื้นที่สำหรับเก็บรองเท้าคู่โปรด
สำหรับใครที่มีรองเท้าค่อนข้างเยอะ หรือเป็นนักสะสมรองเท้า แล้วอยากจะจัดเก็บรองเท้าคู่โปรดเอาไว้ในห้องแต่งตัว ก็สามารถสั่งทำ WALK IN CLOSET แบบที่มีพื้นที่สำหรับจัดเก็บรองเท้าได้เลย
แต่ควรเลือกใช้ตู้ชั้นสำหรับจัดเก็บรองเท้าที่มีความกว้างของแต่ละชั้นอยู่ที่ประมาณ 17 – 43 เซนติเมตร ซึ่งจะทำให้เราสามารถจัดเก็บรองเท้าทุกแบบไม่จะเป็นรองเท้าผ้าใบ รองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าบูทเอาไว้ในตู้ได้อย่างลงตัว และยังเหลือพื้นที่ระบายอากาศทำให้ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากรองเท้าของเราได้อีกด้วยค่ะ
ต้องมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บเครื่องประดับ
นอกจากห้องแต่งตัวแบบ WALK IN CLOSET จะช่วยจัดเก็บเสื้อผ้าและรองเท้าได้แล้ว เราก็จะต้องมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บเครื่องประดับต่างๆ เช่น สร้อย ข้อมือ แหวน ต่างหู กระเป๋า เน็คไท หมวก หรือนาฬิกา เอาไว้ในห้องแต่งตัวให้เป็นสัดส่วน
ดังนั้นเราจึงควรมีตู้ชั้น หรือลิ้นชักเอาไว้สำหรับจัดเก็บของเหล่านี้เอาไว้ด้วยกันอย่างเป็นระเบียบ ก็จะช่วยให้เราสามารถหยิบของพวกนี้ออกมาใช้งานได้ง่ายๆ เลยค่ะ
แสงธรรมชาติต้องส่องเข้าถึงห้องได้
สิ่งสำคัญมากๆ ในการทำห้องแต่งตัว WALK IN CLOSET นั่นก็คือการออกแบบให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาถึงภายในห้องของเราได้ เพราะนอกจากจะช่วยลดความอับชื้นภายในห้องของเราได้แล้ว
แสงธรรมชาติยังช่วยอำนวยความสะดวกให้สาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำสามารถแต่งหน้าออกมาได้ดูดีมากๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้เรามองเห็นสีของเสื้อผ้า และของใช้ต่างๆ ได้อย่างชัดเจนตรงกับสีจริง จึงช่วยทำให้เราสามารถ Mix & Match สีของเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น
เน้นการจัดวางให้โปร่งโล่ง สบายตา
ส่วนใหญ่ห้องแต่งตัวแบบ WALK IN CLOSET จะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และมักจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำกับห้องนอนของเรา ดังนั้นรูปแบบการจัดวางของในห้องจึงควรเน้นให้มีลักษณะที่โปร่งโล่ง ดูสบายตา
ซึ่งเราควรจะเว้นระยะห่างระหว่างพื้นที่แห้งกับพื้นที่เปียกไว้ที่ประมาณ 120 เซนติเมตร เพื่อให้ภายในห้องแต่งตัวของเรามีพื้นที่สำหรับระบายอากาศและความชื้นนั้นเองค่ะ
ต้องมีกระจกเงาเต็มตัวเอาไว้ส่อง
และสิ่งที่ภายในห้องแต่งตัว WALK IN CLOSET ของเราจะขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือกระจกเงาแบบเต็มตัว ที่ถือว่าเป็นของสำคัญมากๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราสามารถเช็คบุคลิกการแต่งตัวก่อนออกไปทำงาน หรือไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้อย่างมั่นใจแล้ว
กระจกเงาแบบเต็มตัวบานนี้ยังสามารถเป็นของตกแต่งที่ช่วยทำให้ห้องแต่งตัวของเราดูโปร่ง โล่ง สบายตา และดูกว้างขึ้นอีกด้วยค่ะ
และนี่ก็เป็นข้อมูลของ ‘ข้อควรรู้ !! ก่อนเริ่มทำ WALK IN CLOSET (ด้วยตัวเอง) ง่ายๆ’ ที่เพื่อนๆ สามารถลองเอาไปทำตามกันได้เลยค่ะ เพราะมั่นใจเลยว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถทำห้องแต่งตัว WALK IN CLOSET เอาไว้ในบ้านได้ตรงตามแบบที่ต้องการใช้งานอย่างแน่นอน