![5 วิธี เลือกซื้อตู้เสื้อผ้าให้เหมาะกับการใช้งาน](https://goodideaoutlet.com/wp-content/uploads/2021/05/choose-a-wardrobe-that-is-suitable6.jpg)
เปิด How to !! เอาใจสาวๆ ทุกคนที่กำลังมองหาตู้เสื้อผ้าดีไซน์ทันสมัยที่สามารถตอบสนองความชอบ และความต้องการใช้งานของเราได้อย่างลงตัว
ด้วย 5 วิธีง่ายๆที่จะทำให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อตู้เสื้อผ้า ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุการใช้งานของตู้เสื้อผ้า , ขนาดที่มีพอดีกับพื้นที่ห้อง , ฟังก์ชั่นที่ตู้เสื้อผ้าของเราควรจะมีเพื่อตอบโจทย์ในการจัดเก็บเสื้อผ้า , ระยะเวลาในการติดตั้งที่จะทำให้เราใช้งานตู้เสื้อผ้าได้ทันที , และหลักในการวัดคุณภาพของตู้เสื้อผ้าก่อนสั่งซื้อค่ะ
ถ้าตอนนี้สาวๆ อยากรู้กันแล้วว่า How to 5 วิธี การเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าให้เหมาะกับการใช้งาน ที่ Good Idea Outlet :] รวบรวมมาแชร์ให้กับทุกคนในวันนี้มีวิธีการเลือกอย่างไรบ้างนั้น ? เดี๋ยวตามเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
5 วิธี การเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าให้เหมาะกับการใช้งาน
สารบัญเนื้อหา
1. เลือกจาก ‘วัสดุ’ เพื่อกำหนดระยะเวลาในการใช้งาน
2. เลือกจาก ‘ขนาด’ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ของเรา
3. เลือกจาก ‘ฟังก์ชัน’ เพื่อให้ใช้งานได้ตามแบบที่ต้องการ
4. เลือกจาก ‘ประเภท’ เพื่อให้สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว
5. เลือกจาก ‘การรับประกัน’ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า
6. สรุป
1.เลือกจาก ‘วัสดุ’ เพื่อกำหนดระยะเวลาในการใช้งาน
![เลือกซื้อตู้เสื้อผ้า จากวัสดุ](https://goodideaoutlet.com/wp-content/uploads/2021/05/choose-a-wardrobe-that-is-suitable1.jpg)
สำหรับการเลือก ‘วัสดุ’ ที่จะนำมาใช้ในการทำตู้เสื้อผ้าก็ถือว่ามีความหลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก,เหล็ก หรือไม้จริง
แต่ที่คนนิยมเลือกใช้มากที่สุดก็คนจะหนีไม่พ้นไม้สังเคราะห์ ที่ถูกผลิตขึ้นมาทดแทนงานไม้จริง เพราะนอกจากจะมีความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังมีรูปแบบดีไซน์ ลวดลาย และสีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ทำให้สามารถตอบโจทย์ความชอบของเราได้อย่างลงตัว
อีกทั้งไม้ประเภทนี้ยังมีการเคลือบเมลามีนทำให้ช่วยป้องกันความชื้น และมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน อยู่ที่ประมาณ 10-15ปีกันเลยค่ะ ซึ่งตรงนี้จะขึ้นกับการดูแลรักษาของเราด้วยนะคะ
2. เลือกจาก ‘ขนาด’ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ของเรา
![เลือกซื้อตู้เสื้อผ้า จากขนาด](https://goodideaoutlet.com/wp-content/uploads/2021/05/choose-a-wardrobe-that-is-suitable2.jpg)
สำหรับการเลือก ‘ขนาด’ ของตู้เสื้อผ้านะคะ เราจะต้องเลือกตู้เสื้อผ้าที่มีขนาดพอดี หรือใกล้เคียงกับพื้นที่ของเรา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการขนย้ายและติดตั้งตู้เสื้อผ้า
ซึ่งเราสามารถรู้ขนาดของตู้เสื้อผ้าที่ต้องการใช้ได้จากการวัดขนาด (ความสูง x ความกว้าง x ความลึก) ของพื้นที่ที่เราต้องการติดตั้งตู้เสื้อผ้านั่นเองค่ะ เมื่อเรารู้ข้อมูลเหล่านี้ก็จะสามารถเลือกขนาดของตู้เสื้อผ้าได้อย่างเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ในห้องของเราแล้วค่ะ
3. เลือกจาก ‘ฟังก์ชัน’ เพื่อให้ใช้งานได้ตามแบบที่ต้องการ
![เลือกซื้อตู้เสื้อผ้า จาการฟังก์ชัน](https://goodideaoutlet.com/wp-content/uploads/2021/05/choose-a-wardrobe-that-is-suitable3.jpg)
สำหรับการเลือก ‘ฟังก์ชัน’ การใช้งานภายในตู้เสื้อผ้านะคะ เราจะต้องเลือกใช้ชุดตู้เสื้อผ้าที่มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานของเราได้อย่างลงตัว
ไม่ใช่เอาไว้แค่แขวนเสื้อหรือกางเกงเท่านั้น แต่ตู้เสื้อผ้าของเราจะต้องมีตู้สำหรับพับเก็บเสื้อผ้า , แขวนชุดเดรสยาว , เก็บเครื่องประดับ และของใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าเดินทาง ชุดเครื่องนอน รองเท้า ตู้เซฟ หรือตู้เย็นขนาดเล็กสำหรับเก็บเครื่องสำอางค์ได้อีกด้วย
ซึ่งในปัจจุบัน ‘ตู้เสื้อผ้า’ ก็มีการพัฒนาฟังก์ชันภายในตู้มาให้เราเลือกใช้งานกันได้อย่างหลากหลาย ทำให้สาวๆ สามารถเลือกใช้งานกันได้ตามความต้องการเลยค่ะ
4. เลือกจาก ‘ประเภท’ เพื่อให้สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว
![เลือกซื้อตู้เสื้อผ้า จาการรับประเภท](https://goodideaoutlet.com/wp-content/uploads/2021/05/choose-a-wardrobe-that-is-suitable4.jpg)
สำหรับการเลือกประเภท ของตู้เสื้อผ้านะคะ ในปัจจุบันสาวๆ จะมีการนิยมเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือ แบบงานเฟอร์นิเจอร์ Fit in และแบบงานเฟอร์นิเจอร์ Built in นะคะ
ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 ประเภทนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องระยะเวลาการติดตั้ง ซึ่งเฟอร์นิเจอร์แบบ Fit in จะได้เปรียบมากกว่า เพราะมีวิธีการติดตั้งที่ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้ติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของสาวๆ ยุคใหม่ได้แบบทันทีเลยค่ะ
5. เลือกจาก ‘การรับประกัน’ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า
![เลือกซื้อตู้เสื้อผ้า จาการรับประกัน](https://goodideaoutlet.com/wp-content/uploads/2021/05/choose-a-wardrobe-that-is-suitable5.jpg)
สำหรับข้อสุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำสาวๆ เลยก็คือ เราควรจะเลือกซื้อตู้เสื้อผ้ากับบริษัทที่มี ‘การรับประกันสินค้า’ เพราะถ้าหากว่าสินค้าของเราเกิดความชำรุดเสียหาย ทางบริษัทก็จะทำการส่งเคลมหรือมาซ่อมสินค้าให้เราทันที และระยะเวลาในการรับประกันสินค้านั้นก็ช่วยทำให้เรามั่นใจได้อีกว่าทางบริษัทมีความมั่นใจในคุณภาพสินค้ามากๆ เขาจึงกล้ารับประกันสินค้าให้กับเรานั่นเองค่ะ
ดังนั้นถ้าหากว่าตู้เสื้อผ้าที่เราเลือกใช้นั้นมีระยะเวลาในการรับประกันสินค้า ก็เท่ากับว่าเราสามารถมั่นใจในคุณภาพสินค้าและบริการของบริษัทนี้ได้มากขึ้น เพราะเมื่อสินค้ามีการชำรุดเสียหายที่เกิดมาจากการผลิต,การขนส่ง หรือการติดตั้ง ทางบริษัทนั้นก็จะต้องทำการแก้ไข หรือส่งเคลมสินค้าใหม่ให้เราอย่างแน่นอน
และนี่ก็เป็น 5 วิธีง่ายๆ ตัวช่วยที่จะทำให้สาวๆ ทุกคนสามารถเลือกซื้อตู้เสื้อผ้า ได้แบบสบายๆ แถมตรงตามความชอบ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการใช้งานในการจัดเก็บเสื้อผ้า,ของใช้ต่างๆ ได้อย่างลงตัวและดูเป็นระเบียบ สะดวกต่อหยิบออกมาใช้งานอีกด้วยค่ะ